หลวงตาพวง สุขินทริโย

วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2553

19. เหตุอัศจรรย์ที่ถ้ำเป็ด

ในพรรษาที่ 5 ของพระพวง สุขินทริโย ปี พ.ศ. 2495 ท่านได้ศึกษาข้อวัตรปฏิบัติ ตลอดจนเจริญสมาธิภาวนา ที่วัดป่าภูธรพิทักษ์ร่วมกับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร เมื่อออกพรรษา พระอาจารย์ฝั้น ได้พาท่านพร้อมทั้งสามเณรอีก 1 รูป ออกเดินทางจากวัดป่าภูธรพิทักษ์เพื่อไปแก้ไขเรื่องวิปัสสนากรรมฐานให้กับพระอาจารย์บุญ ชิวังโส ที่ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

หลังจากเสร็จภาระกิจแล้ว พระอาจารย์ฝั้นหลวงปู่ฝั้นได้พาธุดงค์ต่อตามป่าเขาต่าง ๆ เพื่อแสวงหาสถานที่อันเป็นสัปปายะเหมาะในการทำความเพียร การฝึกฝนอบรมตนเองในการธุดงค์ในป่า จะต้องเผชิญกับภยันตรายต่างๆ มากมายย่อมทำให้มีจิตใจที่เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว อดทน หลังจากที่ออกเดินธุดงค์ไปตามป่าเขา ได้เดินทางไปถึงถ้ำแห่งหนึ่งเรียกว่า ถ้ำเป็ด ห่างจากวัดถ้ำอภัยดำรงธรรม อ.ส่องดาว จ.สกลนคร ของพระอาจารย์วัน อุตตโม ประมาณ 3 กิโลเมตร หลวงปู่ฝั้นได้พาคณะไปอยู่จำพรรษาที่นั่นประมาณ 8 เดือน

ไปอยู่ครั้งแรกมีความยากลำบากมาก เพราะไกลจากหมู่บ้าน ต้องใช้ระยะเวลานานในการลงมาบิณฑบาตเพราะระยะทางห่างจากหมู่บ้านถึง 5 กิโลเมตร นอกจากความยากลำบากแล้ว ยังมีประสบการณ์อันน่าอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นระหว่างการออกธุดงค์ตามป่าเขาที่เกิดขึ้นอีก เช่นเดียวกับครั้งที่ออกธุดงค์กับพระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร สมัยเมื่อเป็นเณรตอนไปนมัสการพระธาตุพนม

หลวงตาพวงเล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ที่ได้รับในครั้งนั้นว่า

“มีอยู่วันหนึ่งเณรที่อยู่ร่วมด้วยเนื่องจากอายุยังน้อย ชอบเล่นตามประสาเด็ก ๆ ในช่วงกลางวันก็ปีนขึ้นไปบนเขาแล้วลองปาก้อนหินดูว่าจะขว้างแล้วไปตกไกลไหม ก็ลองปาดู 4-5 ก้อน หลวงปู่ฝั้นอยู่ข้างล่างได้ยินเสียงก้อนหินจึงเรียกเณรลงมาถามว่าปาก้อนหินใช่ไหม หลวงปู่ฝั้นก็เตือนว่าทีหลังอย่าทำ การมาอยู่ป่าเขาจะต้องสงบสำรวม ต้องมีกิริยามารยาทที่เรียบร้อย จะเล่นคะนองเช่นนั้นไม่ได้ ท่านได้อบรมสั่งสอนในเรื่องอื่น ๆ อีก แล้วก็ให้เณรไปปัดกวาดทำความสะอาดกุฏิ อาบน้ำ เตรียมตัวปฏิบัติธรรม”

พอตกกลางคืนในคืนนั้น ประมาณเที่ยงคืน ขณะที่ภิกษุสามเณรทุกรูปจำวัดหมดแล้ว ได้ยินเสียงดัง กรับ กรับ กรับ เหมือนม้าวิ่งมาอย่างรวดเร็ว มาหยุดที่บนชานของกุฏิของสามเณร ซึ่งอยู่ข้างล่างเชิงเขา สามเณรได้ยินเสียงดังกล่าวก็ตกใจกลัวจนตัวสั่น จะร้องก็ร้องไม่ออก ในขณะที่หลวงปู่ฝั้นก็ได้ยินเสียงดังกล่าวเช่นเดียวกัน จึงตะโกนเรียก "เณร เณร" แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบ ท่านจึงเดินจากกุฏิของท่านที่อยู่ข้างบนลงมาดูสามเณรข้างล่าง เพราะกลัวว่าเสือจะคาบเณรไปกิน

เมื่อหลวงปู่ฝั้นมาถึงกุฏิเห็นสามเณรนั่งตัวสั่นอยู่ในกุฏิ ขณะที่ข้างนอกก็ไม่พบสัตว์หรือสิ่งใดเลย หลวงปู่ท่านจึงกล่าวว่า "เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจถึงการปฏิบัติตัว ให้มีความสำรวมกาย วาจา ใจ ในการออกธุดงค์ในที่ต่าง ๆ เพราะทุก ๆ ที่ ล้วนแล้วแต่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดูแลอยู่"

ตลอดเวลา 8 เดือนที่จำพรรษาอยู่ หลวงปู่ฝั้น พระพวง สามเณร ได้พาญาติโยมทั้งหลายสร้างกุฏิขึ้นมา 2 หลัง ได้เลื่อยไม่กระดานปูพื้นศาลาและสร้างถังเก็บน้ำ พอใกล้จะเข้าพรรษา หลวงปู่ฝั้นจึงได้นำคณะกลับมาจำพรรษาที่วัดป่าภูธรพิทักษ์ตามเดิม

นี่จึงเป็นอุทาหรณ์ในการออกธุดงค์ให้กับบรรดาพระภิกษุสามเณรรุ่นต่อๆมาที่ตั้งใจจะออกธุดงค์ไปยังสถานที่อันสัปปายะ เหมาะกับการเจริญสมาธิภาวนา เพื่อขัดเกลากิเลสให้หมดไป เป็นหนทางสู่แดนนิพพานอันเกษมว่า จะต้องสำรวมทั้งกาย วาจา และใจ เคารพสถานที่ที่ไปพำนัก เพราะทุกแห่งล้วนมีสิ่งศักดิ์สิทธิดูแลอยู่ทั้งสิ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น