หลวงตาพวง สุขินทริโย

วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2553

17. อาพาธหนัก เกศาเปลี่ยนสี

หลังจากหลวงปู่มั่นมรณภาพแล้ว คณะสงฆ์ ข้าราชการและประชาชนได้ร่วมกันพิจารณาตั้งศพของท่านเพื่อบำเพ็ญกุศล และรอพระราชทานเพลิงศพเป็นเวลา 100 วัน ซึ่งจะตรงกับวันขึ้น 13 ค่ำ เดือน 3 พ.ศ. 2493 ระหว่างนั้นรอเวลาพระราชทานเพลิงศพของหลวงปู่มั่นนั้น พระพวง สุขินทริโย เห็นว่าพอมีเวลาว่างอยู่บ้าง จึงขออนุญาตพระผู้ใหญ่เพื่อเดินทางกลับบ้านศรีฐาน เพื่อเยี่ยมโยมบิดามารดา เพราะตั้งแต่มาปฏิบัติธรรมร่วมกับหลวงปู่มั่นนั้นยังไม่มีโอกาสได้กลับเยี่ยมเยียนท่านทั้งสองเลย

เมื่อได้รับอนุญาต จึงได้เดินทางกลับบ้านศรีฐาน พอกลับถึงบ้านศรีฐานเริ่มมีอาการไข้หนาวสั่น ซึ่งเกิดจากได้รับเชื้อไข้ป่าหรือไข้มาเลเรียตั้งแต่วัดป่าบ้านหนองผือ อาการหนักมากขึ้นเรื่อยๆ โยมบิดาเห็นว่าพระพวงมีอาการไม่ค่อยดี จึงรีบไปตามหมออนามัย จากสถานีอนามัยมารักษา

หลวงตาเล่าให้ฟังว่า "ป่วยเป็นไข้ป่า อยู่ครึ่งเดือน จนผมร่วงหมด ต้องไปตามหมอมาฉีดยาให้ เพราะยังไม่มีโรงพยาบาลยโสธร"

หลังจากฉีดยาแล้วพระพวงสลบไปไม่ได้สติ เกิดนิมิตขึ้น หลวงตาเล่าให้ฟังต่อว่า

“พอฉีดยาเสร็จก็สลบไปไม่ได้สติ เกิดนิมิตเห็นมีคนมาหามหลวงตาไปใส่ในเรือล่องไปตามแม่น้ำโขง ไม่ทราบเขาจะเอาไปไหน มองเห็นดวงไฟลิบๆสีเขียวอยู่อีกเมืองหนึ่ง แต่ล่องเรือเท่าไรก็ไม่ถึงสักที รู้สึกเหมือนล่องเรือกว่า 3 ชั่วโมงแล้วก็ยังไม่ถึง จนกระทั่งฤทธิ์ยาเริ่มคลายจึงค่อยๆมีสติขึ้น เริ่มมองเห็นหลังคากุฏิที่มุงด้วยหญ้าแฝก ขณะเดียวกันก็ยังรู้สึกโยกเยกเหมือนนอนอยู่ในเรือสีเขียวที่มองเห็นนั้นกลายเป็นแสงไฟจากตะเกียงที่ตั้งอยู่ในกุฏิ พอพลิกตัว โยมบิดาถามว่าอาการเป็นอย่างไรบ้าง จึงเริ่มรู้สึกตัวหายใจได้ หลังจากนั้นอาการก็ทุเลาเป็นปกติ”

พออาการป่วยเริ่มดีขึ้นผมก็ร่วงจนหมดศรีษะ คงเป็นจากผลข้างคียงของยาที่ใช้รักษาท่าน เมื่อใกล้วันงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จึงออกก็เดินทางไปร่วมในงานที่วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร ต่อมาเส้นผมก็งอกขึ้นมาใหม่แทนเส้นเก่าที่ร่วงไป แต่สีกลับกลายเป็นสีส้ม และเส้นผมส่วนที่เป็นสีส้มก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีขาวทั้งศรีษะในเวลาเกือบสิบปีต่อมา การเปลี่ยนสีผมของพระพวงครั้งนั้นสันนิษฐานว่าอาจจะมาจากพิษของไข้มาเลเรียหรือไม่ก็จากยาที่รักษาก็เป็นได้

นี่เป็นอีกเหตุการหนึ่งที่พระพวง สุขินทริโย ยังจดจำได้โดยมิลืมเลือนจวบจนปัจจุบัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น