หลวงตาพวง สุขินทริโย

วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2553

11. กราบนมัสการหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

พระอาจารย์บุญช่วย ธัมมวโร ได้พิจารณาเห็นว่า สามเณรพวง ลุล่วง ได้ศึกษาความรู้ทางด้านปริยัติพอสมควรระดับหนึ่ง สามารถสอบนักธรรมเอกผ่านได้แล้ว ท่านต้องการให้สามเณรพวง ลุล่วงมีความรู้ทางด้านปริยัติเพิ่มเติมให้มากขึ้น จึงตั้งใจว่าจะพาสามเณรพวงไปศึกษาปริยัติธรรมให้แตกฉานยิ่งขึ้น ที่วัดศรีเทพ อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งมีพระเทพสิทธาจารย์ (จันทร์ เขมิโย) เจ้าอาวาสและเป็นเสาหลักในการเผยแผ่ความรู้ด้านปริยัติและการศึกษาธรรมบาลี ของภาคอิสานในขณะนั้น

เมื่อได้ตัดสินใจจะเป็นเรียนปริยัติธรรมต่อแล้วนั้น จึงได้ออกเดินทางจากบ้านศรีฐานไปยังวัดศรีเทพ อ.เมือง จ.นครพนม โดยระหว่างทางพระอาจาย์บุญช่วยทราบข่าวว่า หลวงปู่มั่น ภูริทัตโตได้พำนักอยู่ที่วัดป่าบ้านหนองผือ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร จึงคิดอยากจะพาสามเณรไปกราบหลวงปู่มั่น พระอาจารย์ใหญ่สายกรรมฐานก่อนเดินทางไปเรียนปริยัติ

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เป็นพระสงฆ์ที่มีความสำคัญในสายปฏิบัติกรรมฐาน มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย เป็นที่เล่าขานว่าท่านเป็นผู้ที่มีจริยาวัตรงดงาม เคร่งครัดในพระธรรมวินัย ฉลาดรอบรู้ในการเทศน์ และสามารถรู้วาระจิตคนได้หมด ลูกศิษย์ลูกหาที่อยู่ปฏิบัติธรรมกับท่าน ล้วนกลัวท่านทุก ๆ คน เพราะคิดสิ่งใดไม่ดีท่านจะรู้หมด เป็นผลให้ลูกศิษย์ของท่านต้องสำรวมจิต ระมัดระวัง และตั้งใจในการปฏิบัติธรรมยิ่งนัก

ครั้นเมื่อเดินทางถึงวัดป่าบ้านหนองผือ พระอาจารย์บุญช่วย ธัมมวโร พร้อมทั้งสามเณรพวง ลุล่วงก็ตรงเข้าไปกราบหลวงปู่มั่นทันที หลวงตาพวงเล่าให้ฟังว่า

“เมื่อกราบท่านแล้วหลวงปู่มั่นท่านก็ถามขึ้นทันทีว่า ตั้งใจจะปฏิบัติหรือตั้งใจเรียน ถ้าตั้งใจปฏิบัติก็ต้องปฏิบัติเอาจริงเอาจัง ถ้าจะเรียนก็ต้องไปเรียน ไปหาสำนักเรียน ทำเล่นไม่ได้นะ จะไปทางไหนก็ต้องตัดสินใจ” นั่นเป็นคำถามที่มีความหมายต่อการปฏิบัติธรรม และการเจริญในวิปัสะนากรรมฐานของสามเณรพวง ลุล่วงยิ่งนัก

ผลที่สุดก็สามเณรพวง ลุล่วงตัดสินใจเลือกปฏิบัติกรรมฐาน

หลวงตาพวงท่านเล่าว่า "สาเหตุที่ตัดสินใจเลือกปฏิบัตินั้นเป็นเพราะในคำเทศน์ของหลวงปู่มั่น ท่านรู้วาระจิตของหลวงตาหมดทุกอย่าง ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เล่าให้ฟังเลย เพราะทีแรกพระอาจารย์บุญช่วยกำลังจะส่งไปเรียนปริยัติธรรมที่วัดศรีเทพ จ.นครพนม แต่แวะมากราบหลวงปู่มั่นเสียก่อน แล้วท่านก็เทศน์เรื่องปริยัติและเรื่องกรรมฐานต่าง ๆ จึงเกิดศรัทธาในคำสั่งสอนของท่านในที่สุดก็ตัดสินใจอยู่ศึกษาอบรมกับหลวงปู่มั่นต่อไป"

หลังจากที่ได้รับการชี้แนะแนวทางการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานจากหลวงปู่มั่น สามเณรพวงได้ลองนั่งวิปัสสนากรรมฐานตามคำแนะนำของหลวงปู่มั่น ผลของการนั่งสมาธิครั้งนั้น ปรากฏในจิตว่าตัวเบาเป็นปุยนุ่น ลอยไปในอากาศ จนกระทั่งถอนจิตออกจึงทราบว่าจิตลอยขึ้นไป เป็นผลจากการที่จิตรวมเป็นหนึ่ง เกิดสมาธิระดับอุปปาจารสมาธิ และคงจะเป็นอานิสงส์มาแต่ครั้งก่อนที่เคยมีบุญบารมีได้ฝึกปฏิบัติมา จึงสามารถรวมจิตเป็นสมาธิได้อย่างรวดเร็ว

ด้วยผลการปฏิบัติจากการได้รับคำชี้แนะจากหลวงปู่มั่นในครั้งนั้น หลวงตาเล่าให้ฟังว่า

"รู้สึกซาบซึ้ง ดื่มด่ำในรสพระธรรมเป็นอย่างมาก และตั้งใจว่าจะไปกราบเรียนหลวงปู่มั่นว่าจะขอบวชตลอดชีวิต แต่เปลี่ยนใจไม่ไปกราบเรียนท่านเพราะคิดว่าถ้าหากทำไม่ได้คงไม่ดี แต่ในจิตใจก็แน่วแน่มั่นคง มุ่งมั่น ในการฝึกวิปัสสนากรรมฐานให้แตกฉานต่อไป นับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา"

นับเป็นบุญญาบารมีของสามเณรพวงที่ได้มีโอกาสมากราบหลวงปู่มั่นก่อนเดินทางไปเรียนทางด้านปริยัติ ได้ฟังธรรมเทศนาของท่านจนเกิดซาบซึ้งและมุ่งมั่นในการปฏิบัติสมาธิกรรมฐานตามแนวทางคำสั่งสอนของหลวงปู่มั่น เลิกล้มความตั้งใจในการเรียนทางด้านปริยัติทันทีเพราะพิจารณาเห็นตามคำแนะนำของหลวงปู่มั่น เพื่อเข้าสู่มรรคผลนิพพานโดยแท้จริง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น