หลวงตาพวง สุขินทริโย

วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2553

10. ไปอยู่กับพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโมและพระอาจารย์มหาปิ่น ปัญญาพโล

ในช่วงที่สามเณรพวงบวชเป็นพรรษาที่ 4 ในปีนั้นเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้เว้นว่างจากการสอบนักธรรมต่าง ๆ บ้านเมืองอดอยาก แร้นแค้น ข้าวยากหมากแพง อีกทั้งยังเกิดโรคระบาด โดยเฉพาะฝีดาษ ท่านจึงได้มีโอกาสไปแสวงหาความรู้จากครูบาอาจารย์สำคัญอีก 2 องค์ คือ พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม และพระอาจารย์มหาปิ่น ปัญญาพโล ที่วัดป่าศรีสำราญ จ.อบลราชธานี

หลวงตาพวงท่านเล่าให้ฟังว่า "ช่วงนั้นชาวบ้านอดอยาก ไม้ขีดไฟกลักละ 10 บาท น้ำมันตะเกียงลิตรละหลายร้อยบาท ระหว่างนั้นพระลีซึ่งพำนักอยู่ที่วัดศรีฐานในเช่นเดียวกัน (ปัจจุบันสึกออกมา ถึงแก่กรรม) ชวนออกธุดงค์ไปจังหวัดศรีสะเกษ จึงได้ขออนุญาตพระอาจารย์บุญช่วยออกธุดงค์ไปกับคณะโดยออกเดินทางด้วยเท้าไปจังหวัดศรีสะเกษ พำนักที่วัดป่าศรีสำราญ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ

ประกอบกับเกิดโรคฝีดาษระบาดที่บ้านศรีฐาน ทางบ้านจึงบอกไม่ให้กลับ สามเณรพวงพำนักอยู่ที่นั่นเป็นเวลาหลายเดือน จนกระทั่งพระสัมฤทธิ์ซึ่งพำนักอยู่ที่วัดป่าศรีสำราญได้ชวนสามเณรพวงให้ไปศึกษาอบรมธรรมกับหลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม และพระมหาปิ่น ปัญญาพโล ซึ่งจำพรรษาร่วมกันที่วัดป่าแสนสำราญ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี สามเณรพวงเห็นว่าน่าจะเกิดประโยชน์ต่อการปฏิบัติเพราะหลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม และพระมหาปิ่น ปัญญาพโล เป็นครูบาอาจารย์ในสายกรรมฐานที่สำคัญ มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย จึงตัดสินใจเดินทางไปร่วมปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่สิงห์และพระมหาปิ่น

หลวงตาพวงท่านเล่าให้ฟังว่า "ช่วงที่อยู่กับหลวงปู่สิงห์นั้นดีมาก หลักธรรมคำสั่งสอนที่ท่านได้รับล้วนแต่ดีมาก ท่านได้พาสวดมนต์นั่งสมาธิ ในวันพระท่านจะเทศน์อบรมตลอดคืน ไม่นอน ถ้าหากง่วงนอนหลวงปู่สิงห์ก็จะพาสวดสรภัญญะ พอให้หายง่วงก็จะพานั่งสมาธิต่อ เป็นเช่นนี้เป็นประจำตลอดพรรษา มีญาติโยมมารักษาศีล ฟังธรรมจากพระอาจารย์สิงห์เป็นจำนวนมาก" ส่วนพระมหาปิ่น ปัญญาพโล ช่วงนั้นอาพาธอยู่ไม่ได้ออกอบรมสั่งสอนญาติโยมเท่าใดนัก

สามเณรพวง ลุล่วง ได้ไปอยู่ปฏิบัติธรรม อุปัฏฐากครูบาอาจารย์หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโมและหลวงปู่มหาปิ่น ปัญญาพโล เป็นเวลา 1 พรรษา ตลอดระยะเวลาจำพรรษาได้ศึกษาอบรมเพิ่มเติมจากครูบาอาจารย์ทั้งสองจนมีความรู้แตกฉานในข้อวัตรปฏิบัติ และการปฏิบัติภาวนา หลังจากออกพรรษาเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่กองทัพญี่ปุ่นขอยอมแพ้ต่อฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่ 2 สามเณรพวง ลุล่วงได้กราบลาพระอาจารย์ทั้งสองกลับวัดป่าศรีฐานใน อ.ป่าติ้ว เพื่อมาเล่าเรียนทางปริยัติต่อ

เมื่อกลับมาถึงวัดป่าศรีฐานใน ก็ล่วงเข้าพรรษาที่ 5 ของการเป็นสามเณร สงครามโลกครั้งที่ 2 ก็สงบลง ทุกอย่างเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ทางคณะสงฆ์เริ่มมีการจัดการเรียนการสอน และสอบปริยัติ พระอาจารย์บุญช่วย ธัมมวโร ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีฐานใน ได้อบรมสั่งสอนข้อวัตรปฏิบัติต่าง ๆ เพิ่มเติม อีกทั้งยังได้หาครูบาอาจารย์ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในภาษาบาลีมาสอนสามเณรพวงและเพื่อนๆ ให้มีความรู้แตกฉานในด้านปริยัติ จนสามเณรพวง ลุล่วง สามารถสอบนักธรรมเอกได้ในปีนั้น ทั้งนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น